ชื่อวิทยาศาสตร์ : Couroupita guianensis Aubl.
ชื่อวงศ์ : Lecythidaceae หรือวงศ์ของต้นจิก ต้นกระโดน
ชื่อสามัญ : Cannon-ball tree
ชื่อพื้นเมือง :
ลูกปืนใหญ่
ชนิดพืช
[Plant Type] : ไม้ต้น
ถิ่นกำเนิด :
อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้
ขนาด
[Size] : สูงได้ถึง 30 เมตร
สีดอก [Flower Color] : สีชมพูอมเหลืองหรือแดง
ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Tiem] : เกือบตลอดปี
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ปานกลาง
สีดอก [Flower Color] : สีชมพูอมเหลืองหรือแดง
ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Tiem] : เกือบตลอดปี
อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : ปานกลาง
ลักษณะนิสัย
[Habitat] : ขึ้นได้ในดินทั่วไป
ความชื้น
[Moisture] : ปานกลาง
แสง [Light]
: แดดเต็มวัน
ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้ต้นชนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ
เรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ หนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลแกมเทา แตกเป็นร่องและสะเก็ด
ใบ (Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ เป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง
รูปขอบขนานถึงรูปใบหอกแกมรูปไข่ กว้าง 5-8เซนติเมตร ยาว12-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลม
โคนใบสอบหรือมน ขอบใบจักตื้น ใบหนา
ดอก (Flower) : สีชมพูอมเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วงอ่อนอมชมพู มีกลิ่นหอมมาก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะขนาดใหญ่ตามลำต้น ช่อดอกยาว 30-150 เซนติเมตร ปลายช่อโน้มลง กลีบดอกหนา
4-6 กลีบ กลางดอกนูน สีขนสั้นสีเหลืองคล้ายแปรง เกสรเพศผู้เป็นเส้นยาวสีชมพูแกมเหลืองจำนวนมาก
ทยอยบานจากโคนไปหาปลายช่อ นานเป็นเดือน ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-10 เซนติเมตร
ผล (Fruit) : ผลแห้ง ทรงกลมใหญ่
ขนาด 10-20 เซนติเมตร เปลือกเเข็ง สีน้ำตาลปนแดง ผลสุกมีกลิ่นเหม็น
มีเมล็ดจำนวนมาก รูปไข่
วิธีการปลูกและดูแล
: ดินที่เหมาะสม ดินร่วน
ต้องการน้ำปานกลาง ควรปลูกในที่มีแสงทั้งวัน
การขยายพันธุ์
: การเพาะเมล็ด
ข้อดีของพันธุ์ไม้
: เป็นพันธุ์ไม้ราคาถูก (เพาะจากเมล็ด) และราคาจะแพงเมื่อต้นโตแล้ว
(ไม้บอนใช้ในการจัดสวน) หากปลูกกลางแจ้งจะมีรูปทรงที่สวยงาม
ไม่มีความจำเป็นต้องตัดแต่งทรงพุ่ม
ช่อดอกขนาดใหญ่และมีดอกจำนวนมากในแต่ละช่อดอก ดอกทะยอยบาน จึงทำให้สามารถชื่นชมได้หลายวัน ดอกมีขนาดใหญ่ สีสันสดสวยงามมาก
เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมใช้ในการออกแบบจัดสวน ต้นใหญ่ๆ
ราคาไม่แตกต่างจากลีลาวดีหรอกครับ
ประโยชน์ : ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลในพระพุทธศาสนา
เนื่องจากชาวลังกาเห็นว่าดอกมีลักษณะสวยและมีกลิ่นหอมจึงนำไปถวายพระ
อีกทั้งนิยมปลูกภายในวัดมากกว่าตามอาคารบ้านเรือน เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีประโยชน์มาก
ชาวอินเดียมักนำมาสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ทำเกวียน ทำไม้หมอนรถไฟ ทำสะพาน
รวมถึงทำเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ต่างๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น
ส่วนเมล็ดนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ และน้ำมันที่ได้จากเมล็ดนำมาทำอาหาร เช่น ทำเนย และใช้เป็นน้ำมันตะเกียง
รวมทั้งใช้ทำสบู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณด้านพืชสมุนไพรด้วย คือ
ยางใช้เป็นยาสมานแผล ยาห้ามเลือด ใช้แก้โรคผิวหนัง ตุ่มพุพอง โรคซิฟิลิส โกโนเรีย
วัณโรค โรคท้องร่วง บิด โรคหูอักเสบ เป็นต้น, ผลใช้แก้โรคท้องเสีย
ท้องร่วง เป็นต้น
ข้อแนะนำ
:
เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่มีขนาดใหญ่ใช้พื้นที่ปลูกขนาด 6X6 ม. (เมื่อโตเต็มที่)
ดังนั้นก่อนตัดสินใจว่าจะปลูกสาละลังกา ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่มีอยู่ก่อน
แนะนำว่าปลูกเพียง 1 ต้นก็เพียงพอแล้ว
ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มออกดอก
และที่จริงแล้วต้นลาละลังกา (ต้นลูกปืนใหญ่)
เป็นพันธุ์ไม้ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับพุทธประวัติ แค่ชื่อคล้ายกับต้นสาละอินเดียเท่านั้นเอง
ต้นลาละลังกา (ต้นลูกปืนใหญ่) และต้นสาละ(อินเดีย)
เป็นพันธุ์ไม้ต่างชนิดกัน และมีถิ่นกำเนิดพบกระจายอยู่ห่างไกลต่างทวีปกัน
แต่เข้ามาเกี่ยวข้องกันโดยบังเอิญ เนื่องจากความเข้าใจผิดในชื่อที่คล้ายกัน และ
ปัจจุบันความเข้าใจดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปมาก
อ้างอิง : http://agkc.lib.ku.ac.th/plantwebsite/webpage/Trees/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2.html
http://clgc.rdi.ku.ac.th/index.php/rs/fragrant/176-couroupita
http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=39383&id=159896
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=travelaround&date=25-12-2010&group=34&gblog=62
น.ส.แพร เสือแก้ว เลขที่28
นาย เผ่าวิภู กิจนุกูล เลขที่11
ม.5/1
ตรวจแล้วนะครับ
ตอบลบ